โน๊ตดนตรีกับการเล่นดนตรี
โน้ตดนตรีกับการเล่นดนตรี... ผมน่าจะเคยพูดไว้บ้างแล้วเรื่องการถกเถียงว่าจะไปเรียนป๊อปหรือคลาสสิคดี เห็นบางคนโพสต์ตอบไว้ว่าถ้าเรียนป๊อบจะเน้นการเล่นเพลง เรียนคลาสสิคเน้นการอ่านโน้ต มันเป็นคำตอบที่ไม่ตรงประเด็นนะครับ 1. การเล่นดนตรีไม่ว่าแนวไหนก็ตาม ควรเล่นจากความจำ รวมทั้งคลาสสิค(ที่น้องๆ เห็นว่าเน้นการอ่านโน้ตด้วย) 2. การอ่านโน้ตได้ไม่ได้เกี่ยวกับแนวดนตรี แต่ความเห็นที่ผิดเพี้ยนไปเกิดจากเมื่อเราเริ่มจะเรียนกีตาร์คลาสสิค ครูจะสอนให้อ่านโน้ตก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าอ่านโน้ตไม่ได้จะไม่สามารถเรียนดนตรีขั้นสูงได้
โน้ตดนตรีเป็นภาษาสากล โน้ตบอกทำนองและเสียง ไม่ได้บอกว่าจะเล่นกีตาร์สายไหนช่องไหน ...มันเป็นการใช้ร่วมกันของเครื่องดนตรีทุกชนิด ถ้าเทียบกับการเรียนวิชาสามัญ ถ้าคุณจะเรียนหมอคุณต้องอ่านหนังสือออกก่อน ถ้าจะเรียนวิศวะก็ต้องอ่านหนังสือออกก่อน สมมติว่าหมอเป็นดนตรีแนวคลาสสิค วิศวะเป็นดนตรีแนวฟิงเกอร์สไตล์ สองคนนี้ก็อ่านหนังสือออกเหมือนกัน อ่านคำว่า "น่ารักอ่ะ" ได้เหมือนกัน แต่อาจจะอ่านออกเสียงไม่เหมือนกัน ซึ่งคนอ่านหนังสือไม่ออกก็พูดคำว่า "น่ารักอ่ะ" ได้เหมือนกัน
ถ้าเปรียบการแสวงหาความรู้เป็นเกมส์สักอย่าง เช่นเกมส์ "น่ารักอ่ะ" มีการติดคำว่า "น่ารักอ่ะ" ไว้บนผนัง หมอเดินผ่านมาก็จะมองเห็นและอ่านป้ายนั้นได้ วิศวะเดินผ่านมาก็มองเห็นและอ่านป้ายนั้นได้ แต่คนที่อ่านหนังสือไม่ออกเดินผ่านมาก็จะไม่รู้ว่าคำนั้นคืออะไร...
ดนตรีไม่ใช่แค่คำว่า "น่ารักอ่ะ" แต่ดนตรีมีคำอื่นๆ อีกซึ่งเป็นคำที่มาประกอบกันขึ้นเป็นบทเพลงในแต่ละเพลง ถ้าเราอ่านหนังสือออก เราก็ไม่ต้องคอยถามคนข้างๆ ว่าคำนั้นๆ เขียนว่าอะไร มีไม่น้อยที่เราไปถามคนที่อ่านหนังสือไม่ออกแต่เค้าดันตอบคำถามเรา (ซึ่งเป็นคำตอบที่แน่นอนว่า "มั่ว") เพราะตัวคนตอบยังอ่านไม่ออกเลย
สมัยก่อนนี้นักดนตรีส่วนใหญ่ที่เข้ามาเล่นตามโรงแรมในเมืองไทยเป็นฟิลิปปินส์ซะส่วนใหญ่ คนไทยก็เล่นได้ดีไม่แพ้กันแต่ทำไมคนไทยไม่ได้เล่น สมัยนั้นเค้านิยมนักร้องจร (เดินสายร้อง) พอนักร้องขึ้นเวทีก็จะวางโน้ตไว้ให้นักดนตรี พอเห็นโน้ตเพลง...วงฟิลิปปินส์เค้าเล่นได้หมดล่ะครับ แต่นักดนตรีไทยบอกว่า...ยังไม่เคยแกะเพลงนี้ เล่นไม่ได้ หรือบางทีฮากว่านั้นอีกคือ เพลงนั้นตัวเองเล่นได้แล้วด้วยซ้ำไป แต่ไม่รู้ว่าโน๊ตที่วางอยู่ข้างหน้านั้นคือเพลงที่ตัวเองเล่นได้ (เรื่องจริงจากคนใกล้ตัว)
คนที่เล่นดนตรีได้โดยไม่อ่านโน๊ตมีเยอะครับ และเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงก็มีไม่น้อย (ซึ่งคนเหล่านั้นหลายคนมีสิ่งที่เรียกว่าพรสวรรค์) ซึ่งถ้าคุณมีสิ่งนั้น...ก็คงไม่เข้ามาถามอะไรแบบนี้นะครับ (พงษสิทธิ์ คัมภีร์ แต่งเพลงผีโรงเย็นตั้งแต่อยู่ ป.6 ซึ่งแน่นอนว่าตอนนั้นอ่านโน๊ตไม่ได้, Tommy เล่นเพลงของ Chet Askin ได้ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ **อย่าไปอ้างว่าเค้ายังทำได้...เพราะมันเป็นพรสวรรค์ส่วนตัวครับ**)
ระบบการศึกษาที่ถูกต้องเท่านั้นจึงจะพัฒนาคนธรรมดาให้มีศักยภาพสูงขึ้น(ทุกอย่างทุกแขนง) ระบบการศึกษาไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่มีพรสวรรค์สูงส่ง เพราะเค้าเล่นได้เองของเค้าอยู่แล้ว สำหรับคนธรรมดาก็ขยันศึกษาอย่างถูกขั้นตอนและซ้อมอย่างถูกวิธีครับ (ถ้าอยากเก่งต้องซ้อมหนักด้วยครับ)
อย่าหลงประเด็นนะครับ ....ถ้าคุณเป็นทอมมี่ คุณไม่ต้องอ่านโน้ตก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากเล่นได้แบบ ทอมมี่คุณต้องอ่านโน้ตที่ทอมมี่เล่นให้ได้วิธีการเรียน มีร้อยแปดพันวิธีครับ เช่น อ่านจากหนังสือ ถามเพื่อน ดูในยูทูป ไปโรงเรียน แล้วแต่ความพร้อมของแต่ละคนครับ ตัวผมเองก็เริ่มจากหนังสือ ปิคกิ้ง แต่ไม่ใช่ทุกคนจะอ่านรู้เรื่องนะ แล้วบางทีอ่านออกเหมือนกันแต่ได้ความหมายไปคนละเรื่อง... ......ยกตัวอย่างเหตุการณ์จริ ง สดๆร้อนๆ แต่ไม่เกี่ยวกับดนตรีนะ ร้านกาแฟปากซอยบ้านผม มีเครื่องนวดเท้าไว้บริการ เค้ามีคู่มือเป็นกระดาษ A4 1 หน้า ผมจะอ่านหน้านั้นจนจบตอนก่อนจะใช้เครื่องทุกครั้ง เพิ่งมาเข้าใจว่าคู่มือสั่งให้เราทำอะไรเมื่อวานนี้เอง(หลังจากอ่านมา 7 รอบ(วันละรอบ)) 6 วันก่อนหน้านั้นทำผิดมาตลอดทั้งๆ ที่อ่านอยู่ทุกวัน คนอ่านคนเดิม กระดาษแผ่นเดิม สถานที่เดิม นี่ผมยังถือว่าเก่งนะครับ เพราะน้องที่ร้าน เค้าใช้เครื่องทุกวัน มาเป็นเดือนแล้ว ยังใช้ผิดอยู่เลย ถ้าจะอ่านเอง 1.ตำราดีหรือไม่ 2. คุณอ่านหนังสือแตกหรือไม่ 3.เข้าทางกันกับตัวเราหรือไม่

โน้ตดนตรีเป็นภาษาสากล โน้ตบอกทำนองและเสียง ไม่ได้บอกว่าจะเล่นกีตาร์สายไหนช่องไหน ...มันเป็นการใช้ร่วมกันของเครื่องดนตรีทุกชนิด ถ้าเทียบกับการเรียนวิชาสามัญ ถ้าคุณจะเรียนหมอคุณต้องอ่านหนังสือออกก่อน ถ้าจะเรียนวิศวะก็ต้องอ่านหนังสือออกก่อน สมมติว่าหมอเป็นดนตรีแนวคลาสสิค วิศวะเป็นดนตรีแนวฟิงเกอร์สไตล์ สองคนนี้ก็อ่านหนังสือออกเหมือนกัน อ่านคำว่า "น่ารักอ่ะ" ได้เหมือนกัน แต่อาจจะอ่านออกเสียงไม่เหมือนกัน ซึ่งคนอ่านหนังสือไม่ออกก็พูดคำว่า "น่ารักอ่ะ" ได้เหมือนกัน
ถ้าเปรียบการแสวงหาความรู้เป็นเกมส์สักอย่าง เช่นเกมส์ "น่ารักอ่ะ" มีการติดคำว่า "น่ารักอ่ะ" ไว้บนผนัง หมอเดินผ่านมาก็จะมองเห็นและอ่านป้ายนั้นได้ วิศวะเดินผ่านมาก็มองเห็นและอ่านป้ายนั้นได้ แต่คนที่อ่านหนังสือไม่ออกเดินผ่านมาก็จะไม่รู้ว่าคำนั้นคืออะไร...
ดนตรีไม่ใช่แค่คำว่า "น่ารักอ่ะ" แต่ดนตรีมีคำอื่นๆ อีกซึ่งเป็นคำที่มาประกอบกันขึ้นเป็นบทเพลงในแต่ละเพลง ถ้าเราอ่านหนังสือออก เราก็ไม่ต้องคอยถามคนข้างๆ ว่าคำนั้นๆ เขียนว่าอะไร มีไม่น้อยที่เราไปถามคนที่อ่านหนังสือไม่ออกแต่เค้าดันตอบคำถามเรา (ซึ่งเป็นคำตอบที่แน่นอนว่า "มั่ว") เพราะตัวคนตอบยังอ่านไม่ออกเลย
สมัยก่อนนี้นักดนตรีส่วนใหญ่ที่เข้ามาเล่นตามโรงแรมในเมืองไทยเป็นฟิลิปปินส์ซะส่วนใหญ่ คนไทยก็เล่นได้ดีไม่แพ้กันแต่ทำไมคนไทยไม่ได้เล่น สมัยนั้นเค้านิยมนักร้องจร (เดินสายร้อง) พอนักร้องขึ้นเวทีก็จะวางโน้ตไว้ให้นักดนตรี พอเห็นโน้ตเพลง...วงฟิลิปปินส์เค้าเล่นได้หมดล่ะครับ แต่นักดนตรีไทยบอกว่า...ยังไม่เคยแกะเพลงนี้ เล่นไม่ได้ หรือบางทีฮากว่านั้นอีกคือ เพลงนั้นตัวเองเล่นได้แล้วด้วยซ้ำไป แต่ไม่รู้ว่าโน๊ตที่วางอยู่ข้างหน้านั้นคือเพลงที่ตัวเองเล่นได้ (เรื่องจริงจากคนใกล้ตัว)
คนที่เล่นดนตรีได้โดยไม่อ่านโน๊ตมีเยอะครับ และเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงก็มีไม่น้อย (ซึ่งคนเหล่านั้นหลายคนมีสิ่งที่เรียกว่าพรสวรรค์) ซึ่งถ้าคุณมีสิ่งนั้น...ก็คงไม่เข้ามาถามอะไรแบบนี้นะครับ (พงษสิทธิ์ คัมภีร์ แต่งเพลงผีโรงเย็นตั้งแต่อยู่ ป.6 ซึ่งแน่นอนว่าตอนนั้นอ่านโน๊ตไม่ได้, Tommy เล่นเพลงของ Chet Askin ได้ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ **อย่าไปอ้างว่าเค้ายังทำได้...เพราะมันเป็นพรสวรรค์ส่วนตัวครับ**)
ระบบการศึกษาที่ถูกต้องเท่านั้นจึงจะพัฒนาคนธรรมดาให้มีศักยภาพสูงขึ้น(ทุกอย่างทุกแขนง) ระบบการศึกษาไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่มีพรสวรรค์สูงส่ง เพราะเค้าเล่นได้เองของเค้าอยู่แล้ว สำหรับคนธรรมดาก็ขยันศึกษาอย่างถูกขั้นตอนและซ้อมอย่างถูกวิธีครับ (ถ้าอยากเก่งต้องซ้อมหนักด้วยครับ)
อย่าหลงประเด็นนะครับ ....ถ้าคุณเป็นทอมมี่ คุณไม่ต้องอ่านโน้ตก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากเล่นได้แบบ ทอมมี่คุณต้องอ่านโน้ตที่ทอมมี่เล่นให้ได้วิธีการเรียน มีร้อยแปดพันวิธีครับ เช่น อ่านจากหนังสือ ถามเพื่อน ดูในยูทูป ไปโรงเรียน แล้วแต่ความพร้อมของแต่ละคนครับ ตัวผมเองก็เริ่มจากหนังสือ ปิคกิ้ง แต่ไม่ใช่ทุกคนจะอ่านรู้เรื่องนะ แล้วบางทีอ่านออกเหมือนกันแต่ได้ความหมายไปคนละเรื่อง... ......ยกตัวอย่างเหตุการณ์จริ ง สดๆร้อนๆ แต่ไม่เกี่ยวกับดนตรีนะ ร้านกาแฟปากซอยบ้านผม มีเครื่องนวดเท้าไว้บริการ เค้ามีคู่มือเป็นกระดาษ A4 1 หน้า ผมจะอ่านหน้านั้นจนจบตอนก่อนจะใช้เครื่องทุกครั้ง เพิ่งมาเข้าใจว่าคู่มือสั่งให้เราทำอะไรเมื่อวานนี้เอง(หลังจากอ่านมา 7 รอบ(วันละรอบ)) 6 วันก่อนหน้านั้นทำผิดมาตลอดทั้งๆ ที่อ่านอยู่ทุกวัน คนอ่านคนเดิม กระดาษแผ่นเดิม สถานที่เดิม นี่ผมยังถือว่าเก่งนะครับ เพราะน้องที่ร้าน เค้าใช้เครื่องทุกวัน มาเป็นเดือนแล้ว ยังใช้ผิดอยู่เลย ถ้าจะอ่านเอง 1.ตำราดีหรือไม่ 2. คุณอ่านหนังสือแตกหรือไม่ 3.เข้าทางกันกับตัวเราหรือไม่

0 comments:
Post a Comment